“สมคิด” อัดแพ็กเกจพยุงเศรษฐกิจ กระตุ้นอสังหา-ท่องเที่ยว

สมคิด” อัดแพ็กเกจพยุง ศก.ช่วงรอยต่อ พ.ค.-ก.ค.นี้ สั่งคลังงัดมาตรการภาษีให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยบ้านเพิ่มกระตุ้นอสังหาฯ-แจกคูปองท่องเที่ยว พณ.คุมราคาสินค้า-รับมือพืชผลตกต่ำ ผู้ว่าการแบงก์ชาติหวั่นตั้งรัฐบาลใหม่ยื้อกระทบลงทุน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมมาตรการพยุงภาวะเศรษฐกิจช่วง 2-3 เดือนก่อนรัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามารับไม้ต่อ เพื่อรักษาโมเมนตัมเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัวลงมาก เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่เสร็จสิ้น ทำให้เกิดการชะลอของการลงทุนและการบริโภค ทั้งนี้ โดยจะออกมาเป็นแพ็กเกจมาตรการ เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายใน 1-2 สัปดาห์นี้มาตรการที่จะออกมาต้องสามารถรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจไว้ได้ในระดับที่เรียกว่า “ไฮอิมแพ็กต์” แต่ไม่ถึงกับต้องใช้ยาแรง จะเป็นมาตรการที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริโภค การกระตุ้นการท่องเที่ยว การใช้จ่ายของประชาชนที่ยากจน การลงทุน และด้านอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ ปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพิ่งปรับลดประมาณการขยายตัว มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เศรษฐกิจภายในประเทศมากกว่า จึงต้องออกมาตรการมาพยุงในช่วงรอยต่อ เพราะอีกไม่เกิน 2 เดือน จะได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแล้ว นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งผลักดันกฎหมายสรรพากรที่จะช่วยให้จัดเก็บภาษีค้าขายออนไลน์ได้ดีขึ้น ให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็ว จากปัจจุบันอยู่ในขั้นกฤษฎีกา

อัดช็อปช่วยชาติหนุนท่องเที่ยว

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานว่า เศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสแรกกับไตรมาส 2ปีนี้จะเติบโตแค่ 3% ต้น ๆ จำเป็นต้องพยุงการเติบโตไว้ หากปล่อยให้ชะลอลงมาก เวลาจะดึงขึ้นต้องใช้ทรัพยากรมาก มาตรการที่เสนอเบื้องต้นมี 2-3 เรื่อง ได้แก่ มาตรการด้านการบริโภค เงินอุดหนุนให้ท่องเที่ยวเมืองรอง และการให้หักลดหย่อนภาษีกรณีค่าใช้จ่ายจากการท่องเที่ยวทั่วประเทศ

ขณะที่มาตรการด้านการใช้จ่ายของประชาชน จะมีมาตรการด้านภาษีคล้ายกับช็อปช่วยชาติ สำหรับซื้อเสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องกีฬา ใช้ในด้านการศึกษาจะทำช่วงก่อนเปิดเทอมนี้ รวมถึงให้หักลดหย่อนสำหรับการซื้อหนังสือ จะให้เวลาใช้สิทธิ์เป็นปี ถือว่าเป็นการส่งเสริมทุนมนุษย์ในอนาคต

“ส่วนกลุ่มคนจนจะเติมเงินให้ในบัตรสวัสดิการ ไปซื้อเสื้อผ้า เครื่องใช้ เครื่องกีฬาสำหรับด้านการศึกษาด้วย”

 

ด้านการลงทุน จะมีมาตรการให้หักรายจ่ายได้ 1.5-2 เท่า สำหรับรายจ่ายจากการลงทุนทำระบบ P.O.S. ระบบใบกำกับอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเข้าสู่ระบบอีเพย์เมนต์

ลดหย่อนภาษี-อัด 2 หมื่นล้าน

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้จะให้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดมาตรการช่วยพัฒนาทุนมนุษย์ในระยะยาว มุ่งส่งเสริมผู้ที่เรียนในหลักสูตรที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต หรือ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย จะพิจารณาให้สิทธิประโยชน์เป็นกรณีพิเศษสำหรับผู้กู้เรียนในสาขาที่เกี่ยวข้อง ส่วนมาตรการดูแลภาคอสังหาริมทรัพย์ จะใช้ธนาคารออมสิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ช่วยดูแลให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อ

“ปัญหาของภาคอสังหาฯคือ มีดีมานด์ แต่ไม่สามารถที่จะกู้ได้ เพราะธนาคารค่อนข้างเข้มงวด เป็นผลมาจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปออกมาตรการ LTV คุมเข้มสินเชื่อ ต้องใช้เงินงบประมาณราว 20,000 ล้านบาท เฉพาะเติมเงินบัตรสวัสดิการกับช็อปช่วยชาติอาจจะใช้จากงบฯกลาง”

หวังอัดฉีดถึงมือรากหญ้าเร็ว

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า มาตรการที่จะออกมาหลัก ๆ จะให้มีผลในช่วง 3 เดือน คือ ระหว่างเดือน พ.ค.-ก.ค.นี้ เพราะรัฐบาลใหม่น่าจะตั้งได้ประมาณปลายเดือน มิ.ย. แต่บางมาตรการอาจมีผลนานกว่านั้น เช่น การหักค่าลดหย่อนจากการท่องเที่ยวทั่วประเทศ เป็นต้น ขณะที่มาตรการอุดหนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวเมืองรองนั้น เบื้องต้นจะแจกคูปอง โดยประชาชนต้องลงทะเบียนรับคูปองนำไปใช้จ่ายเป็นค่าที่พัก หรือค่าซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน

ใช้มาตรการภาษีกระตุ้นอสังหาฯ

สำหรับการกระตุ้นภาคอสังหาฯ นายสมคิดสั่งการให้กรมสรรพากรกับ สศค. ไปดูการกระตุ้นฝั่งผู้ซื้อ (ดีมานด์ไซด์) เช่น การให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยบ้านเพิ่ม หรือให้หักลดหย่อนค่าใช้จ่ายผ่อนบ้าน เป็นต้น ให้คิดมากกว่ามาตรการที่เคยทำมา ทั้งการลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ลดค่าธรรมเนียมโอน และค่าจดจำนอง

“รองนายกฯสั่งให้สรรพากร และ สศค.ไปดูว่า มาตรการที่เคยทำมาจำเป็นต้องทำด้วยหรือไม่ และให้คิดมาตรการใหม่ ๆ ที่จะกระตุ้นฝั่งผู้ซื้อด้วย”

ดันภาษี “อีบิสซิเนส”

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับกรณีจะเร่งกฎหมายภาษีการค้าออนไลน์ในส่วนของร่าง พ.ร.บ. เพื่อรองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ที่จะจัดเก็บภาษีจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ อาทิ กูเกิล เฟซบุ๊ก เป็นต้น กับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามคำขอระหว่างประเทศ และการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติระหว่างประเทศ จะผลักดันให้ออกมาให้ทันรัฐบาลชุดนี้ กรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เปิดรับกฎหมายใหม่ ก็ต้องดูว่าจะใช้เทคนิคออกกฎหมายอย่างไร แต่นโยบายต้องการให้ผ่าน

หวั่นตั้งรัฐบาลใหม่ยื้อซ้ำเติม ศก.

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประมาณการเศรษฐกิจของ ธปท. ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3.8% ลดลงจากปีที่ผ่านมา แต่อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพของเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 4% โดยช่วงครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปลายเดือน มิ.ย.แต่หากการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ชัดเจน ถูกเลื่อนออกไปเดือน ส.ค.-ก.ย. จะมีผล

ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจแน่นอน โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ ๆ ของรัฐบาล รวมถึงภาคเอกชนที่ยังรอนโยบายรัฐบาลใหม่ เช่นเดียวกับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

งัดแผนรับมือพืชผลราคาตก

ด้าน น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ รักษาราชการแทน รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ทางกระทรวงพาณิชย์ยังคงดำเนินมาตรการดูแลภาวะค่าครองชีพ และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากต่อเนื่อง ช่วงไตรมาส 2 หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องปัญหาค่าครองชีพตกต่ำ เพราะเป็นช่วงที่ผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาดจำนวนมาก อาจทำให้เกิดปัญหาด้านราคาตก กำลังซื้อหาย ได้เร่งจัดหาตลาดรองรับเพื่อกระจายสินค้า พร้อมเชื่อมโยงสินค้าชุมชนกับภาคการท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชน ตามนโยบายรองนายกฯสมคิด

เอกชนลุ้นต่อมาตรการฟรี VOA

สำหรับความเคลื่อนไหวของภาคเอกชน นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ได้เสนอรัฐบาลต่อมาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือฟรี VOA ที่กำลังจะสิ้นสุด 30 เม.ย.นี้ ออกไปถึง 31 ต.ค. 2562 เพื่อช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในช่วงโลว์ซีซั่นนี้

นอกจากนี้ สมาคมแอตต้ายังมีแผนนำเอกชนท่องเที่ยวของไทยราว 60 ราย ไปโรดโชว์ใน 3 เมืองรองของจีน ประกอบด้วย เมืองเซียะเหมิน มณฑลฮกเกี้ยน, เมืองหนานซาง มณฑลเจียงซี และเมืองฉางซา มณฑลหูหนาน ทั้ง 3 มณฑลดังกล่าวมีประชากรรวมกว่า 150 ล้านคน และเป็นเมืองที่มีเส้นทางบินตรงเข้าสู่ประเทศไทยจำนวนมาก โดยมีกำหนดเดินทางระหว่าง 26-31 พ.ค.นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.prachachat.net/economy/news-317641